30 เมษายน 2552

เยาวภา บุรพลชัย


นางสาวเยาวภา บุรพลชัย (วิว)นางสาวเยาวภา บุรพลชัย (ชื่อเล่น: วิว) นักกีฬาเทควันโดหญิง ทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดง การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2004 ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยได้จากการแข่งขันในรุ่น 47-51 กิโลกรัม

ประวัติ วิว เยาวภา บุรพลชัยนางสาวเยาวภา เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2527 เป็นบุตรีของ ร้อยตรีธำรง และ นางสมศรี บุรพลชัย มีน้องชาย 1 คน คือ นายประกิต บุรพลชัย เริ่มเล่นเทควันโดครั้งแรก ตั้งแต่อายุ 15 ปี ขณะศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ประวัติการศึกษา วิว เยาวภา บุรพลชัย
ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ [1]
เคยศึกษาที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์
จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษา (มัธยมปลาย สายศิลป์-ภาษา) จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาที่ 6 ที่ โรงเรียนวัดเวฬุวนาราม
จบการศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 2 - ประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเมืองทองนิเวศน์
จบการศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 1 จากโรงเรียนขจรโรจน์วิทยา

ผลงาน วิว เยาวภา บุรพลชัย
เมื่อปี พ.ศ. 2542 ลงแข่งขันรายการ Pro Junior ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ เป็นรายการแรก ได้รับรางวัลชนะเลิศ หลังจากนั้น มีผลงานสำคัญที่ได้รับรางวัลดังนี้
เหรียญเงิน เอเชียนเกมส์ 2002 ที่ปูซาน เกาหลีใต้ พ.ศ. 2545
เหรียญทองแดง กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่แทกู เกาหลีใต้ พ.ศ. 2546
เหรียญทองแดง ชิงแชมป์โลก ที่เยอรมัน พ.ศ. 2546
เหรียญทอง ซีเกมส์ 2003 ที่เวียดนาม พ.ศ. 2546
เหรียญทองแดง โอลิมปิก ที่กรีซ พ.ศ. 2547
เหรียญเงิน กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่ตุรกี พ.ศ. 2548
เหรียญทอง ชิงแชมป์เอเชีย ที่ไทย พ.ศ. 2549
เหรียญทอง World cup ที่ไทย พ.ศ. 2549 โดยมี อาจารย์ครรชิต อมรภักดี เป็นผู้ฝึกสอนคนแรก ปัจจุบันมี อาจารย์ เช ยอง ซุก โค้ชทีมชาติไทย เป็นผู้ฝึกสอน

ความนิยม
นางสาวเยาวภา ถือได้ว่าเป็นนักกีฬาขวัญใจวัยรุ่น แม้จะได้เหรียญทองแดง แต่ก็นับได้ว่ามีชื่อเสียงโดดเด่นกว่านักกีฬาโอลิมปิกรุ่นเดียวกันคนอื่นๆ ด้วยอยู่ในวัยเดียวกัน และรูปร่างหน้าตาที่น่ารักเหมือนดาราวัยรุ่นคนหนึ่ง ประกอบกับเทควันโด อันเป็นศิลปะป้องกันตัวของเกาหลีใต้ ซึ่งรับกับกระแสเกาหลีที่มาแรงในยุคปัจจุบันนี้

ความสามารถอื่น
พูดได้ 4 ภาษา ภาษาไทย (ภาษาแม่) ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเกาหลี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น