30 เมษายน 2552

My name is ..


ยินดีต้อนรับทุกคนค่ะ ..อนุสรา มาลัย.. เล่นๆว่า..แต้วนะคะ
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

ประวัติโดยย่อ


 Birth Day..12/11/32 ที่อยู่ 133 ม.15 ต.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา 30180 คติประจำใจ 'โอกาสมีสำหรับคนที่พร้อมเสมอ' บิดา..นายทวีศักดิ์ มาลัย มารดา..นางบุญเลิศ มาลัย น้องชาย..นายอนุชา มาลัย
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

การศึกษา


 การศึกษา ระดับประถมศึกษา..โรงเรียนชุมชนประทาย ระดับมัธยมศึกษา..โรงเรียนประทาย ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาตรี..ชั้นปี 1 สาขาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทลัยมหาสารคาม
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

รูปส่วนตัวนะจ๊ะ

Family Picture

About Me



★ My Nickname Taew..~~
★ Designation • เตี้ย , ตัวเล็ก , แหล่น้อย , หลอด , อ้วน (งงเรย) , เน่า
★ DOB • วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2532 (ปีมะเส็ง)
★ Blood Groups • กรุ๊ป O กรุ๊ปที่โหลที่สุดในประเทศไทย
★ Colour Of Eyes • Dark Brown
★ Colour Of Hair • Black
★ Place Of Birth • อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา
★ Education • คณะเสียงอีสาน เย้ย !! คณะเลียงอิลาน อ้าว!!ไปกันใหญ่แล้ว คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
★ Favorite Color • ชมพู, น้ำตาล, ขาว , ฟ้า
★ Favorite Music • Garage, Rock, Indy, Raggae, Ska
★ Relative • มีน้องชายที่หล่อมาก ชื่อ น้องหนุ่ม
★ Status • ตอนนี้ยังไม่มีแฟน ล่องลอยเหมือนผีน้อยแคสเปอร์ ( p*0*)p ปล. เวลาชอบใคร ก็จะชอบเรียกคนนั้นว่า ท่าน ทุกที.. แต่ทุกวันนี้ยังไม่เจอท่านคนนั้นเลย T___T
★ Specification • ยังไม่มีสเปคที่ชัดเจน ตายตัว .. แต่ชอบคนเฮฮา แบบไดโนเสาร์ Barney งัย สนุกสนานตลอด 555+
★ My Talent • เต้นท่า Qoo , ร้องเพลงสากล, เล่น Rubik
★ Special Places •1) หัวหิน 2) บางแสน 3) พะเยา 4) สวนสันติชัยปราการ 5) ถนนพระอาทิตย์ + ถนนข้าวสาร 6) วังหลัง 7) สวนจตุจักร 8) Grappa Dish 9) Parking Toys
10) พระนครบาร์
★ Favorite TV Program • แบ่งปันรอยยิ้ม (เพราะเราอยู่ร่วมสังคมเดียวกัน), หนูดีมีเรื่องเล่า, เจ้าขุนทอง, เทเลทับบี้, Barney & Friends, ชุมทางเสียงทอง 555+
★ Favorite Books • BERSERK, Cromatie High School, Blu & Rosso, Only Love is Real, เจ้าชายน้อย, กล่องไปรษณีย์สีแดง, Twilight, New Moon, Eclipse
★ My Fragrance • The Body Shop : White Musk, Yves Rocher : Evidence, Dior : Addict
★ My Style • แล้วแต่อารมณ์.. บอกไม่ถูกเหมือนกัน ง่าย ๆ ไม่เรื่องมาก ไม่ติดแบรนด์ ไม่ยึดติดของหรู
★ Favorite Foods • กระเพราหมูกรอบใส่ข้าวโพดอ่อนด้วย , แกงจืดเต้าหู้ไข่ , เต้าหู้หมูสับ
★ Favorite Fruits • แตงโม , มังคุด
★ Favorite Juices • บลูเบอร์รี่ (ปั่นด้วยนะ ฮ่าๆๆ)
★ Sweets & Candy • โมรินากะ, จอลลี่สติ๊ก, พิงค์ เปล็อตตี้, โคล่อน
★ My Collected • ไดอารี่ โปสการ์ด เฮดแบนด์ กล้องทอย แล้วก็แว่นตา
★ Favorite Games • แน่นอนต้องเกมส์สุดคลาสสิค Mario สมัยเครื่องเล่น Family FR-202, เกมส์ Contra แบบ 30 ตัว ตายแล้วตายอีกกันให้หนำใจ, เกมส์ Battle City ที่เป็น
เกมส์ยิง ๆ รถถังรักษาป้อม แล้วก็เกมส์ต่อสู้บู๊ล้างผลาญทุกชนิด เช่น GTA, Man Hunt, Metal Gear Solid, Need For Speed (ช่วงนี้ติดงอมแงม) Soul Caliber, Tekken ฯลฯ
★ Favorite Movies •1) The Texas Chainsaw Massacre 2) The Silence Of The Lambs 4) Sin City 4) The Fall 5) The Butterfly Effect 6) Star Wars 7) Closer
★ My Habit • เป็นคนแคร์ความรู้สึกของคนรอบข้างมากกว่าตัวเอง มีเรื่องไม่สบายใจมักเก็บไว้คนเดียว ค่อนข้างใจร้อน แต่ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ชอบเล่นอินเตอร์เน็ต
★ I Like • ชอบการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ และก้อชอบการร้องเพลง
★ I Don't Like •1) ปลาหมึก 2) สุนัข 3) อาหารประเภทหอยทั้งหลาย 4) คนโกหก

เพราะดีนะ

เพลงโปรด



เพื่อเธอ ตลอดไป - ศักดา พัทธสีมา

แบบกระเทียมดอง

แบบที่ 3 - กระเทียมดอง
ส่วนผสม
กระเทียมดอง / พริกชี้ฟ้าแดง / น้ำตาลทราย / เกลือ / น้ำส้มสายชู / แป้งมัน หรือ แป้งข้าวโพด / ผักชี
วิธีทำ
1). ปั่นพริกชี้ฟ้าแดงกับกะเทียมดอง โดยแยกกันปั่น หรือจะปั่นรวมกันก็ได้ ปั่นให้ละเอียด
2). ต้มน้ำให้เดือด (ใส่รากผักชีลงไปด้วยก็ได้) ใส่น้ำตาลทรายคนให้ละลาย หลังจากน้ำเดือดแล้ว ใส่พริกกับกระเทียมที่ปั่นลงไป เติมเกลือ กับน้ำส้มสายชู ชิมรสตามชอบ ( เปรี้ยวหวาน หวานเค็ม ) จะใส่น้ำกระเทียมดองด้วยก็ได้
3). ผสมแป้งข้าวโพดกับน้ำ ค่อย ๆ เท ลงหมั่นคนจนน้ำจิ้มข้นเหนียว ปิดไฟเด็ดผักชีใส่โรยหน้าลงไป


ที่มา http://www.pantown.com/market.php?id=8521&name=market8&area=&topic=48&action=view

แบบน้ำมะขามเปียก

แบบที่ 2 – น้ำมะขามเปียกส่วนผสม
1). น้ำมะขาม (โดยการนำมะขามเปียกหรือสดมาขยำกับน้ำพอประมาณ มากน้อยตามที่เราต้องการ จากนั้นกรองเอากากมะขามทิ้ง )
2). นำน้ำมะขามที่เตรียมไว้ไปตั้งไฟให้ร้อน ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปให้เยอะหน่อย เพื่อให้น้ำจะออกรสหวาน ๆ ชิมรสให้ออกเปรี้ยวหวาน
3). ละลายแป้งมันใส่ลงไปเพื่อทำให้น้ำจิ้มเหนียว หมั่นคนเรื่อย ๆ จนเดือดก็หรี่ไฟลงแต่ก็ยังคนไปเรื่อย ๆ มันจะเหนียวขึ้น ปรุงรสด้วยซีอิ๊วหรือน้ำปลานิดหน่อยไม่ต้องมาก พอให้รสออกหวาน ปน เปรี้ยวนิด ๆ และมีเค็มหน่อย ๆ
4). เอาพริกทอดมาตำให้ละเอียด พอน้ำจิ้มเริ่มข้นเหนียวดีแล้วก็เอาพริกทอดที่ตำเตรียมไว้ใส่ลงไป และโรยด้วยใบผักชีนิดหน่อย


ที่มา http://www.pantown.com/market.php?id=8521&name=market8&area=&topic=48&action=view

แบบน้ำส้มสายชู

วิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้น แบบที่ 1 – น้ำส้มสายชู
ส่วนผสมน้ำส้มสายชู ¼ ถ้วยตวง , น้ำสะอาด ¼ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ , เกลือป่น 1 ช้อนชา
พริกแดงโขลกละเอียด 1-2 เม็ด แป้งมัน 2 ช้อนชา ให้ละลายในน้ำสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ผสมน้ำส้มสายชู, น้ำ, น้ำตาล, เกลือ, พริกแดง ตั้งไฟพอเดือด ใส่แป้งมันที่ละลายน้ำเล็กน้อยลงคนจนเหนียวพอสุกยกลง ชิมรสตามใจชอบ


ที่มา http://www.pantown.com/market.php?id=8521&name=market8&area=&topic=48&action=view

กระเบื้องเซรามิค

กระเบื้องเซรามิคสำหรับการปูพื้นและผนัง เป็นวัสดุที่นิยมใช้กันทุกหลังคาเรือน เนื่องจากมีความสวยงาม ก่อสร้างง่าย มีระดับราคาให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับคุณภาพและลวดลายของกระเบื้อง
วิธีการดูแลรักษา ต้องระวังพยายามอย่าให้ของที่มีน้ำหนักตกกระทบ เพราะจะทำให้กระเบื้องแตกร้าวได้ การทำความสะอาดให้ใช้ผ้าชุบน้ำธรรมดาบิดให้หมาดๆเช็ดถู กรณีในห้องน้ำการใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำที่มีฤทธิ์รุนแรงเกินไป อาจจะทำลายปูนซีเมนต์ขาวที่ใช้ยาแนวกระเบื้อง จนทำให้น้ำซึมเข้าใต้แผ่นกระเบื้องได้
การซ่อมแซมกระเบื้องที่แตกร้าว ให้สกัดกระเบื้องแผ่นที่แตกออก ทำความสะอาดผิวคอนกรีตด้านล่าง ติดกระเบื้องแผ่นใหม่โดยใช้ปูนกาวสำหรับติดกระเบื้อง แล้วยาแนวรอยต่อของแผ่นกระเบื้องด้วยปูนซีเมนต์ขาว


ที่มา http://maneerin.blogspot.com/2008/04/blog-post.html

ประตู - หน้าต่าง

วิธีดูแลรักษา ควรระมัดระวังไม่ให้บานประตู เปิดปิดอย่างรุนแรง เพราะลูกบิดอาจจะไปชนถูกผนังรอยเดือยของลูกบิดอาจจะเคลื่อน ทำให้เปิดปิดประตูยากขึ้น และไม่ควรให้เด็กห้อยโหนลูกบิดประตูเล่น นอกจากจะเกิดอันตรายแล้วยังทำให้ลูกบิดเสียและตัวบานพับหลวม ส่งผลทำให้ตัวบานตก ประตูจะฝืดขณะเปิดปิด
หากเป็นประตู – หน้าต่าง ที่เป็นลูกฟักกระจก เมื่อใช้งานไปเป็นระยะเวลานานๆ ขณะฝนตกอาจจะมีน้ำซึมเข้าตามขอบกระจก เนื่องจากซิลิโคนที่ใช้อุดร่องรอยต่อระหว่างกรอบบานไม้และกระจกเสื่อมสภาพ หรือหลุดล่อน ให้ลอกซิลิดคนเก่าออกแล้วอุดซิลิโคนใหม่เข้าไป
การทำความสะอาด บานประตูและบานหน้าต่างทำจากวัสดุหลัก 2 ประเภทคือ ตัวบานที่ทำจากไม้กับตัวบานที่ทำจากพลาสติก แต่การดูแลรักษาประตูหน้าต่างจะไม่ค่อยแตกต่างมากนักคือ หากมีคราบสกปรกใช้ผ้าแห้งหรือชุบน้ำสะอาดหมาดๆ เช็ดถู


ที่มา http://maneerin.blogspot.com/2008/04/blog-post.html

ไม้ปาร์เก้

ไม้ปาร์เก้เป็นวัสดุที่ทำจากธรรมชาติ นิยมนำมาใช้ปูพื้นบ้าน พื้นไม้ปาร์เก้ส่วนใหญ่จะมีการเคลือบเงาบนผิวไม้เป็นการรักษาเนื้อไม้และทำให้แลดูสวยงามวิธีดูแลรักษา ควรระมัดระวังเรื่องความชื้น เพราะความชื้นจะทำให้พื้นปาร์เก้บวม โปร่งพอง และน้ำที่ซึมลงไปใต้แผ่นไม้ปาร์เก้ จะทำให้กาวที่ยึดปาร์เก้กับพื้นด้านล่างเสื่อมคุณภาพ ทำให้ปาร์เก้หลุดล่อน ดังนั้นถ้าทำน้ำหกใส่บนพื้นไม้ปาร์เก้ หรือโดนน้ำฝน ควรรีบเช็ดให้แห้ง และอย่าลากเฟอร์นิเจอร์กับพื้น เพราะจะทำให้พื้นไม้เป็นรอย ควรใช้การยกแทน
การทำความสะอาด ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดถูบนพื้นไม้ หากพื้นไม้ไม่ค่อยเงางาม ให้ใช้ขี้ผึ้งเคลือบเงาทับ


ที่มา http://maneerin.blogspot.com/2008/04/blog-post.html

การต่อเติมบ้าน

ในการต่อเติมบ้านที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม จะเป็นการเพิ่มน้ำหนักบรรทุกให้กับโครงสร้างของตัวอาคาร ซึ่งวิศวกรได้คำนวณขนาดของโครงสร้างไว้รับน้ำหนักเฉพาะที่ออกแบบไว้ตามแบบเท่านั้น การต่อเติมบ้านจึงอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้บ้านเกิดการทรุดตัว หรือโครงสร้างเกิดการแตกร้าว ดังนั้นจึงควรปรึกษาวิศวกรก่อนทำการต่อเติม และต้องปฎิบัติตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครดังนี้
ต้องมีที่ว่างไม่น้อยกว่า 30% ของพื้นที่ที่ดิน
บ้าน 2 ชั้น ผนังบ้านด้านที่อยู่ชิดบ้านหลังอื่น ที่มีช่องเปิด ประตู หน้าต่าง
ต้องอยู่ห่างเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 2 เมตร ถ้าเป็นผนังทึบ ไม่มีช่องเปิด สามารถสร้างห่างเขตที่ดินได้น้อยกว่า 2 เมตร แต่ถ้าห่างเขตที่ดินน้อยกว่า 50 เซ็นติเมตร ต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากเจ้าของที่ดินด้านนั้นด้วย


ที่มา http://maneerin.blogspot.com/2008/04/blog-post.html

การบำรุงรักษา Disk Drive

ช่องอ่านดิสก์เมื่อทำงานไปนานๆหัวอ่านแผ่นดิสก์อาจจะเสื่อมสภาพไปได้ หัวอ่านดิสก์เกิดความสกปรกเน่องจากมีฝุ่นละอองเข้าไปเกาะที่หัวอ่านหรือเกิดจากความสกปรกของแผ่นดิสก์ที่มีฝุ่น หรือคราบไขมันจากมือ ผลที่เกิดขึ้นทำให้การบันทึก หรืออ่านข้อมูลจากแผ่นดิสก์ไม่สามารถดำเนินการได้

การดูแลรักษา Disk Drive ควรปฏิบัติดังนี้
• เลือกใช้แผ่นดิสก์ที่สะอาดคือไม่มีคราบฝุ่น ไขมัน หรือรอยขูดขีดใดๆ
• ใช้น้ำยาล้างหัวอ่านดิสก์ทุกๆเดือน
• หลีกเลี่ยงการใช้แผ่นดิสก์เก่าที่เก็บไว้นานๆ เพราะจะทำให้หัวอ่าน Disk Drive สกปรกได้ง่าย


ที่มา http://www.janburi.buu.ac.th/~48310484/com.html

การบำรุงรักษา Laser Printer

Laser Printer เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถพิมพ์ภาพได้อย่างคมชัดมากมีความละเอียดสวยงาม แต่ราคาค่อนข้างสูงผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรระมัดระวังในการใช้งานแม้ว่าโอกาสจะเสียหายมีน้อยก็ตาม ข้อควรปฏิบัติดังนี้
• การเลือกใช้กระดาษไม่ควรใช้กระดาษ ที่หนาเกินไปจะทำให้กระดาษติดเครื่องพิมพ์ได้
• ควรกรีดกระดาษให้ด ี อย่าให้กระดาษติดกัน เพราะอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระดาษติดในตัวเครื่องพิมพ์ได้
• การใช้พิมพ์ Laser Printer พิมพ์ลงในแผ่นใส ก็ต้องเลือกใช้แผ่นใสที่ใช้ถ่ายเอกสารได้เท่านั้นหากใช่แผ่นใสแบบธรรดาซึ่งไม่สามารถทนความร้อนได้อาจจะหลอมละลายติดเครื่องพิมพ์ทำให้เกิดความเสียหาย



ที่มา http://www.janburi.buu.ac.th/~48310484/com.html

การบำรุงรักษา Inkjet & Dotmatrix Printer

เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแสดงผล รายงาน ของข้อมูลต่างๆทางกระดาษ การที่จะใช้เครื่องพิมพ์ทำงานได้เป็นปกติผู้ใช้คอมพิวเตอร์ควรหมั่นดูแลรักษาดังนี้ •รักษาความสะอาดโดยดูดฝุ่นเศษกระดาษที่ติดอยู่ในเครื่องพิมพ์ทุกเดือนหรือใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่นเศษกระดาษออกจากเครื่องพิมพ์อย่าใช้แปรงชนิดแข็งเพราะอาจทำให้เครื่องเป็นรอยได้
• ถ้าตัวเครื่องพิมพ์มีความสกปรกอาจ ใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้ำชุบน้ำยาทำความสะอาดเครื่องใช้สำนักงานเช็ดถูส่วนที่เปนพลาสติกแต่ต้องระมัดระวังอย่าใช้น้ำเข้าตัวเครื่อง พิมพ์ได้ และควร หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหล่อลื่นทุกชนิด ในตัวเครื่องเพราะอาจทำให้ระบบกลไกเสียหายได้
• ก่อนพิมพ์ทุกครั้งควรปรับความแรง ของหัวเข็มให้พอเหมาะกับความหนาของกระดาษ
• ระหว่างพิมพ์ควรระวังหัวพิมพ์จะติดกระดาษ เช่น การพิมพ์ซองจดหมาย หรือกระดาษที่มีความหนาหรือบางเกินไป
• อย่าถอดหรือเสียบสาย Cable ในขณะที่เครื่องพิมพ์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่
• ไม่ควรพิมพ์กระดาษติดต่อกันนานเกินไปเพราะอาจทำให้หัวอ่านร้อนมากทำให้เครื่องชะงักหยุดพิมพ์กระดาษ
• เมื่อเลิกพิมพ์งานควรนำกระดาษออกจากถาดกระดาษ และช่องนำกระดาษ
•ไม่ควรใช้กระดาษไข(Stencil Paper)แบบธรรมดากับเครื่องพิมพ์ประเภทแบบกระแทก(Dotmatrix Printer)เนื่องจากเศษของกระดาษไขอาจจะไปอุดตันเข็มพิมพ์ อาจทำให้เข็มพิมพ์อาจหักได้ควรใช้กระดาษไขสำหรับเครื่องพิมพ์แทนเพื่อป้องกันการชำรุดของเฟืองที่ใช้หมุนกระดาษ


ที่มา http://www.janburi.buu.ac.th/~48310484/com.html

การบำรุงรักษา Moniter

ในส่วนของจอภาพนั้นอาจเสียหายได้เช่น ภาพอาการเลื่อนไหลภาพล้ม ภาพเต้นหรือไม่มีภาพเลย ซึ่งความเสียหายดังกล่าวจะต้องให้ช่างเท่านั้นเป็นผู้แก้ไขผู้ใช้คอมพิวเคอร์ควรระมัดระวัง โดยปฏิบัติดังนี้
• อย่าให้วัตถุหรือน้ำไปกระทบหน้าจอคอมพิวเตอร์
• ควรเปิดไฟที่จอก่อนที่สวิซไฟที่ CPU เพื่อ boot เครื่อง
• ไม่ควรปิดๆ เปิดๆ เครื่องติดๆกัน เมื่อปิดเครื่องแล้วทิ้งระยะไว้เล็กน้อยก่อนเปิดใหม่
• ควรปรับความสว่างของจอภาพให้เหมาะสมกับสภาพของห้องทำงาน เพราะถ้าสว่างมากเกินไปย่อมทำให้จอภาพอายุสั้นลง
• อย่าเปิดฝาหลัง Monitor ซ่อมเอง เพราะจะเป็นอันตรายจากกระแสไฟฟ้าแรงสูง
• เมื่อมีการเปิดจอภาพทิ้งไว้นานๆ ควรจะมีการเรียกโปรแกมถนอมจอภาพ (Screen Sever) ขึ้นมาทำงานเพื่อยืดอายุการใช้งานของจอภาพ


ที่มา http://www.janburi.buu.ac.th/~48310484/com.html

การบำรุงรักษา Hard Disk

ฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์ที่มีอายุยืนมากยากจะบำรุงรักษาด้วยตัวเอง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายซึ่งควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
• การติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ควรติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์โดยให้ด้านหลังของตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ห่างจากฝาผนังไม่น้อยกว่า 3 นิ้ว เพื่อการระบายความร้อน เป็นอย่างปกติไม่ทำให้เครื่องร้อนได้
• ควรเลือกใช้โตีะทำงานที่แข็งแรงป้องกันการโยกไปมาเพราะทำให้หัวอ่านของฮาร์ดดิสก์ถูกกระทบกระเทือนได้
• ควรมีการตรวจสอบสถานภาพของ Hard Disk ด้วยโปรแกรม Utility ต่างๆว่ายังสามารถใช้งานได้ครบ 100 % หรือมีส่วนใดของ Hard Disk ที่ใช้งานไม่ได้


ที่มา http://www.janburi.buu.ac.th/~48310484/com.html

การบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะมีการเสื่อมชำรุดไปตามสภาพระยะเวลาที่ใช้งานผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรเอาใจใส่ดูแลและบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม สม่ำเสมอเพื่อเพิ่มอายุ การใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งจะช่วยให้สามารถ ประหยัดงบประมาณในการซ่อมบำรุงหรือการเปลี่ยนอุปกรณ์
สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่คอมพิวเตอร์ของคุณจะทำงานได้ดีนั้นคืออย่างไร เช่น ในห้องคอมพิวเตอร์ของคุณควรจะมีอุณหภูมิสูงเท่าไรมีความชื้นไม่เกินเท่าไร ขีดจำกัดของการทำงานเป็นอย่างไรระยะเวลาในการทำงานของเครื่องเป็นอย่างไรดังนั้นห้องทำงานด้านคอมพิวเตอร์จึงควรเป็นห้องปรับอากาศที่ปราศจากฝุ่นและความชื้น ซอฟแวร์แผ่นดิสก์ที่เก็บซอฟแวร์และไฟล์ข้อมูล หรือสารสนเทศนั้นอาจเสียหายได้ ถ้าหากว่าแผ่นดิสต์ได้รับการขีดข่วนได้รับความร้อนสูงหรือตกกระทบกระแทกแรงๆ สิ่งที่ทำลายซอฟแวร์ได้แก่ ความร้อน ความชื้น ฝุ่น ควัน และการฉีดสเปรย์พวกน้ำยาหรือน้ำหอม ต่าง ๆ เป็นต้น การทำความสะอาดระบบคอมพิวเตอร์
1. ไม่ควรทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะที่เครื่องยังเปิดอยู่ ถ้าคุณจะทำความ สะอาดเครื่อง ควรปิดเครื่องทิ้งไว้ 5 นาที ก่อนลงมือทำความสะอาด
2. อย่าใช้ผ้าเปียก ผ้าชุ่มน้ำ เช็ดคอมพิวเตอร์อย่างเด็ดขาด ใช้ผ้าแห้งดีกว่า
3. อย่าใช้สบู่ น้ำยาทำความสะอาดใด ๆ กับคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้ระบบของเครื่อง เกิดความเสียหาย
4. ไม่ควรฉีดสเปรย์ใด ๆ ไปที่คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ
5. ไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นกับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ
6. ถ้าคุณจำเป็นต้องทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรดใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด ที่คู่มือแนะนำไว้เท่านั้น
7. ไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มต่าง ๆ ในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์
8. ไม่ควรกินของคบเคี้ยวหรืออาหารใด ๆ ขณะทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์


ที่มา http://www.janburi.buu.ac.th/~48310484/com.html

การดูแลเส้นเสียงให้แข็งแรง

เคล็ดลับที่ 1: เคล็ดลับการดูแลเส้นเสียงให้แข็งแรง !!!
ต้องฝึกการใช้เส้นเสียงที่เหมาะสมกับปริมาณลมอย่างสม่ำเสมอเหมือนกับการออกกำลังกายทีละนิด ทีละหน่อย จนกว่าร่างกายคุ้นเคย
ฝึกวิธีการใช้เสียงตั้งแต่ตอนพูด ใช้ความกังวานของเสียงช่วยเพิ่มความดังแทนการตะโกน ตะเบ็ง / ไม่พูดเสียงสูง-ต่ำเกินความเป็นจริงของธรรมชาติเสียงตัวเอง (ระดับเสียงที่พูดแล้วสบาย คือธรรมชาติ) หรือไม่พูดเสียงที่เป็นลมจนเกินไป
ออกกำลังกาย (กีฬาทุกประเภทใช้ได้ทั้งหมด ขอให้มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย) เพื่อช่วยเพิ่มพลังและผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้ร่างกายโดยรวม และเพื่อช่วยความแข็งแรงให้ระบบหายใจ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (สังเกตตัวเองด้วยว่าต้องการกี่ชั่วโมงเพราะร่างกายแต่ละคนต้องการแตกต่างกัน)
ทานอาหารให้ครบหมู่ / ดื่มน้ำให้เพียงพอ หรือเกินต่อความต้องการของร่างกายเสมอ
หลีกเลี่ยงคาเฟอีน แอลกออล์ทั้งหลาย / หากเกิดอาการดื่มน้ำน้อยไป หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน-แอลกออล์มากเกินไป เส้นเสียงก็จะพลอยแห้ง อ่อนแอไปด้วย / ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องจะดีที่สุด / การดื่มน้ำเย็นไม่ได้มีผลต่อการใช้เสียงมากจนเกินควร หากไม่ป่วยหรือ มีน้ำมูก / แต่น้ำอุ่น-ร้อนเกิน จะทำให้คอรู้สึกแห้งผาก ไม่ดี โดยเฉพาะก่อนใช้เสียง
ไม่เสพสารเสพติด เช่นบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่จะทำให้เส้นเสียงอ่อนแอ เวลาใช้งาน จะเหนื่อย ต้องออกแรงมากกว่าปรกติหลีกเลี่ยงสภาวะอากาศที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายคอ หรือหายใจลำบาก เช่น มีความชื้นมากเกินไป ฝุ่นมากไป



ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plagao&month=10-2007&date=02&group=1&gblog=7

การควบคุมปริมาณลมที่พอดีกับการใช้เสียง

เคล็ดลับที่ 2: เคล็ดลับการควบคุมปริมาณลมที่พอดีกับการใช้เส้นเสียง !!!
วิธีที่ทำให้สามารถสัมผัสได้ มากกว่าการได้ยินเสียงคือ ใช้นิ้ว หรือ ฝ่ามือ มารองเสียงที่เราเปล่งออกมาจากปาก พยามยามอย่าให้มีลมปนออกมากับเสียงมาก เพราะ หากเสียงร้องมีลมออกมากพร้อมกัน แสดงว่าเส้นเสียงไม่ปิดเข้าหากัน หรือมีการใช้ลมมากเกินไป (คือปริมาณลมไม่พอดีกับการปิดของเส้นเสียง ทำใช้เส้นเสียงได้ไม่เต็มที่ เกิดข้อจำกัดในการใช้เสียง โดยเฉพาะการร้องเพลง)


ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plagao&month=10-2007&date=02&group=1&gblog=7

การเลือกครูสอน

เคล็ดลับที่ 3: เลือกครูสอนใช้เสียง-ร้องเพลงอย่างไร ???
ดูความต้องการของตนเองก่อนว่าอยากจะรู้เรื่องอะไร ต้องการความช่วยเหลือด้านไหน ดูว่าครูมีความรู้ และประสบการณ์ในการสอนเรื่องเหล่านั้นจริงหรือไม่ดูเนื้อหาการสอน และวิธีการสอนของครูที่สอนอยู่ ว่าตอบโจทก์ที่เราต้องการไหม เป็นวิธีที่เราสามารถเรียนได้หรือไม่หากไม่เคยมีประสบการณ์การเรียนใช้เสียง-ร้องเพลงมาก่อน ผู้เรียนควรจะได้คุยถึงวิธีทางการสอนของครู และเนื้อหาที่ตนเองอยากเรียนกับครูผู้สอนโดยตรงก่อนเริ่มเรียน


ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plagao&month=10-2007&date=02&group=1&gblog=7

เทคนิคการพูดเพื่อให้เจ้านายรู้ว่าตนเองมีความสามารถ

ในการทำงาน ผู้เป็นเจ้านายมักจะเรียกประชุมขอความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหา ในสถานที่เช่นนี้ คือโอกาสของการแสดงออกของคุณ คุณต้องรับมือด้วยความระมัดระวัง และต้องแสดงความคิดเห็นให้ฉะฉาน
สิ่งแรกซึ่งคุณต้องปฏิบัติในที่ประชุมคือ ฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วยความเต็มใจตั้งใจตั้งคิดตริตรอง พร้อมกับนำเอาความคิดของผู้อื่นมาบวกเข้ากับความคิดเห็นของตนเอง ต่อจากนั้นจึงใช้เทคนิคของคุณแสดงความสามารถที่เหนือกว่าให้ผู้คนได้ประจักษ์


ที่มา http://www.jobsinsure.com/trick/index02.htm#5

เทคนิคการตำหนิผู้ใต้บังคับบัญชา

หัวหน้าแผนกซึ่งได้รับการสนับสนุน จากผู้ใต้บังคับบัญชาพวกเขาต่างสามารถเอาชนะจิตใจของผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี ตัวอย่างที่ดีเหล่านี้พนักงานในที่ทำงานด้วยกันสามารถอาศัยเป็นกระจกเงาได้เป็นอย่างดี คุณควรศึกษาหากคิดอยากจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้สูงยิ่งขึ้น
เจ้านายที่ชาญฉลาดจะไม่ต่อว่าผู้ใต้บังคับบัญชาว่า “คุณทำเช่นนี้ใช้ไม่ได้” แต่เขาจะกล่าวว่า “ผมสังเกตเห็นว่าระยะนี้คุณขยันทำงานมาก” ต่อจากนั้นจึงกล่าวตำหนิ “แต่ว่า เกี่ยวกับเรื่องนั้นผมคิดว่า...” เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะยอมรับคำตักเตือนด้วยท่าที่ถ่อมตนอย่างแน่นอน


ที่มา http://www.jobsinsure.com/trick/index02.htm#8

เทคนิคการพูดจูงใจเพื่อนร่วมงาน

ในการทำงาน อยู่เพื่อนร่วมงานด้วยความสนิทชิดชื้อคือหลักประกันการทำงานของคุณ คิดจะแสดงสติปัญญาความสามารถท่ามกลางเพื่อนร่วมงานจำต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานให้ดีเสียก่อน ถ้าหากเพื่อนร่วมงานมีความคิดเห็นไม่ตรงกับคุณ คุณต้องมีเทคนิคการพูดเพื่อเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร เพื่อให้ความสำเร็จของคุณได้รับการสนับสนุนจากทุกๆ คน
เทคนิคการพูดจูงใจโดยเคารพความคิดเห็นของฝ่ายตรงข้าม
ในบริษัทความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชายอมรับนับถือคือ ความสำเร็จของคุณ
สมมุติว่าคุณจะพูดจูงใจฝ่ายตรงข้ามและคุณได้เรียกฝ่ายตรงข้ามมายังห้องทำงานส่วนตัว เช่นนี้ต้องทำให้ฝ่ายตรงข้ามตื่นเต้นและเกรงกลัวจนตัวหดเป็นแน่ ผลของการพูดจูงใจจะลดน้อยลงแต่ถ้าหากว่าคุณเดินไปถึงโต๊ะทำงานของฝ่ายตรงข้ามด้วยตนเอง เช่นนี้เชื่อว่าคุณต้องได้รับผลมากกว่า เจ้านายที่เฉลียวฉลาดเมื่อเขาจะต่อว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเขาจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาเขาจะตบไหล่ผู้บังคับบัญชาพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ครั้งต่อไปอย่าทำผิดทำนองเดียวกันอีกนะ” เช่นนี้จะไม่ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ไม่สบายใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาและยังทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาจำคำพูดของเจ้านายตนไว้ในใจ
อีกด้วยวิธีนี้ไม่เพียงแต่จะใช้ได้กับผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้นยังใช้ได้กับผู้มีระดับเดียวกันอีกด้วย หากคุณเข้าใจใช้เทคนิคเหล่านี้เชื่อว่าคุณต้องมีความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างรวดเร็วลองดูซิคะ!

ที่มา http://www.jobsinsure.com/trick/index02.htm#6

เทคนิคการพูดยกย่องผู้บังคับบัญชา



ทำงานในบริษัท โดยเฉพาะพนักงานในสำนักงาน เพราะเวลาที่ต้องอยู่ด้วยกันกับเจ้านายมากกว่า ด้วยเหตุนี้ การที่จะได้รับความพอใจหรือไม่พอใจจากเจ้านาย จึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จของคุณด้วย
พนักงานซึ่งขาดประสบการณ์ อาจทำให้เจ้านายเกิดความไม่พอใจโดยตนเองไม่รู้ตัว เพราะว่าขณะที่งานบางชิ้นของเขาสัมฤทธิ์ผล เขาจะกล่าวอย่างไม่รอช้าว่า “งานนี้สัมฤทธิ์ผลเพราะฉัน”
สำหรับพนักงานซึ่งมีประสบการณ์ เมื่อเขาปฏิบัติงานจนสัมฤทธิ์ผลเขาจะแกล้งกล่าวกับเจ้านายว่า “งานชิ้นนี้สัมฤทธิ์ผลได้เพราะท่านให้การสนับสนุน” การพูดเช่นนี้ก็เพื่อให้เจ้านายเกิดความพอใจต่อเขานั่นเอง เมื่อเจ้านายพอใจในตัวคุณ โอกาสซึ่งคุณจะได้เลื่อนตำแหน่งก็มากขึ้น


ที่มา http://www.jobsinsure.com/trick/index02.htm#2

เทคนิคการพูดกับเจ้านายในออฟฟิศ

ถ้าหากว่าคุณคือพนักงานใหม่ซึ่งสามารถทำให้เจ้านายและคนรอบข้างชื่นชอบ และสามารถให้ทุกคนเห็นความสามารถของคุณ นี่คือเงื่อนไขสำคัญของการได้ดิบได้ดี จะปฏิบัติให้ได้ถึงขั้นนี้ความเฉลียวฉลาดในการพูดมีความสำคัญมากเพราะฉะนั้นระหว่างการได้ดิบได้ดีและความเฉลียวฉลาดในการพูด จึงมีความเกี่ยวพันกันจนไม่สามารถแยกออกจากกันตัวอย่างเช่น ขณะรับคำสั่งจากเจ้านาย คำตอบของคุณต้องมีหนักมีเบาและชัดเจน ข้อความข้างล่างนี้จะอธิบายวิธีการตอบรับของพนักงานหญิงสองคนให้เห็นดังนี้
เจ้านายสั่งว่า “หลังจากนี้สามวัน จัดสารบรรณเหล่านี้มอบให้ผม” พนักงานหญิงคนแรกตอบว่า “คะ” ส่วนพนักงานหญิงคนที่สองจะตอบรับคำสั่งด้วยการกล่าวย้ำคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอีกครั้งโดยตอบว่า หลังจากนี้สามวัน ฉันต้องจัดให้เสร็จ เมื่อผู้คนรอบข้างได้ฟังคำตอบของพนักงานหญิงทั้งสองนี้ คำตอบของพนักงานหญิงคนที่สอง ฟังแล้วคล้ายกับว่าเป็นคำตอบของคนไม่มีความสามารถ ความจริงแล้วเจ้านายแอบชมเชยวิธีการตอบของเธออยู่ในใจ เพราะอะไร? ผู้ตอบได้แต่คำว่า “คะ” มองดูแล้วคล้ายกับเป็นคนที่เปิดเผย แต่เป็นคำตอบที่ง่ายเกินไป มักทำให้ผู้ฟังเกิดความไม่สบายใจตรงกันข้ามผู้ซึ่งตอบย้ำคำสั่งของเจ้านาย กลับจะทำให้เจ้านายสบายใจ


ที่มา http://www.jobsinsure.com/trick/index02.htm#1

วิธีการสมัคร Blogger

ขั้นตอนการสมัครใช้บริการฟรีบล็อกที่ http://www.blogger.com/
เมื่อคุณเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.blogger.com คุณก็จะพบกับหน้าแรกหน้าตาแบบนี้




ผู้ให้บริการเข้าว่าไว้ ว่าคุณสามารถสร้างเว็บบล็อกได้ง่าย ๆ ภายใน 3 ขั้นตอนเท่านั้นและเขาอธิบายทุกขั้นทุกตอนเป็นภาษาไทย เมื่อคุณพร้อมแล้วคุณก็คลิกที่ “สร้างบล็อกของคุณทันที” ได้เลย
เข้าสู่ขั้นตอนที่ 1 แล้วนะ
ให้คุณกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ลงไปให้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่อยู่อีเมล , ป้อนรหัสผ่าน, ชื่อที่แสดง, รหัสยืนยัน ,การยอมรับข้อตกลงต่าง ๆกรอกทุกอย่างเรียบร้อย คลิกที่ “ดำเนินการต่อ”






เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 ตั้งชื่อเว็บบล็อกของคุณ
อยากให้บล็อกของคุณมีชื่ออะไรก็จัดไปเลย (แต่ถ้านึกไม่ออก ลองดูแนวทางในการตั้งชื่อบล็อก ได้ที่นี่) url : บล็อกของคุณจะมีลักษณะแบบนี้http://ชื่อที่คุณตั้ง.blogsport.comกรอกทุกอย่างครบถ้วนเรียบร้อย คลิกที่ “ดำเนินการต่อ”





เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 กว่า ๆ แล้ว (ยังไม่สาม)ให้คุณเลือกแม่แบบ (Template) ที่คุณต้องการ ชอบหน้าตาแบบไหน สีอะไรก็เลือกเลยครับเลือกแม่แบบที่ต้องการได้แล้ว คลิกที่ “ดำเนินการต่อ”



ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรผิดพลาด คุณก็จะได้พบเจอกับหน้านี้






เขาบอกว่า บล็อก ของคุณถูกสร้างขึ้นแล้วเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการสมัครใช้บล็อกฟรีกับ blogger.com ให้คุณคลิกที่ “เริ่มสร้างเนื้อหา”
ขั้นสุดท้ายก็คือการเพิ่มเนื้อหาลงในบล็อกของคุณ


เพียงแค่นี้ คุณก็มีบล็อกฟรี กับ blogger.com เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เยาวภา บุรพลชัย


นางสาวเยาวภา บุรพลชัย (วิว)นางสาวเยาวภา บุรพลชัย (ชื่อเล่น: วิว) นักกีฬาเทควันโดหญิง ทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดง การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2004 ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยได้จากการแข่งขันในรุ่น 47-51 กิโลกรัม

ประวัติ วิว เยาวภา บุรพลชัยนางสาวเยาวภา เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2527 เป็นบุตรีของ ร้อยตรีธำรง และ นางสมศรี บุรพลชัย มีน้องชาย 1 คน คือ นายประกิต บุรพลชัย เริ่มเล่นเทควันโดครั้งแรก ตั้งแต่อายุ 15 ปี ขณะศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ประวัติการศึกษา วิว เยาวภา บุรพลชัย
ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ [1]
เคยศึกษาที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์
จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษา (มัธยมปลาย สายศิลป์-ภาษา) จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาที่ 6 ที่ โรงเรียนวัดเวฬุวนาราม
จบการศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 2 - ประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเมืองทองนิเวศน์
จบการศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 1 จากโรงเรียนขจรโรจน์วิทยา

ผลงาน วิว เยาวภา บุรพลชัย
เมื่อปี พ.ศ. 2542 ลงแข่งขันรายการ Pro Junior ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ เป็นรายการแรก ได้รับรางวัลชนะเลิศ หลังจากนั้น มีผลงานสำคัญที่ได้รับรางวัลดังนี้
เหรียญเงิน เอเชียนเกมส์ 2002 ที่ปูซาน เกาหลีใต้ พ.ศ. 2545
เหรียญทองแดง กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่แทกู เกาหลีใต้ พ.ศ. 2546
เหรียญทองแดง ชิงแชมป์โลก ที่เยอรมัน พ.ศ. 2546
เหรียญทอง ซีเกมส์ 2003 ที่เวียดนาม พ.ศ. 2546
เหรียญทองแดง โอลิมปิก ที่กรีซ พ.ศ. 2547
เหรียญเงิน กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่ตุรกี พ.ศ. 2548
เหรียญทอง ชิงแชมป์เอเชีย ที่ไทย พ.ศ. 2549
เหรียญทอง World cup ที่ไทย พ.ศ. 2549 โดยมี อาจารย์ครรชิต อมรภักดี เป็นผู้ฝึกสอนคนแรก ปัจจุบันมี อาจารย์ เช ยอง ซุก โค้ชทีมชาติไทย เป็นผู้ฝึกสอน

ความนิยม
นางสาวเยาวภา ถือได้ว่าเป็นนักกีฬาขวัญใจวัยรุ่น แม้จะได้เหรียญทองแดง แต่ก็นับได้ว่ามีชื่อเสียงโดดเด่นกว่านักกีฬาโอลิมปิกรุ่นเดียวกันคนอื่นๆ ด้วยอยู่ในวัยเดียวกัน และรูปร่างหน้าตาที่น่ารักเหมือนดาราวัยรุ่นคนหนึ่ง ประกอบกับเทควันโด อันเป็นศิลปะป้องกันตัวของเกาหลีใต้ ซึ่งรับกับกระแสเกาหลีที่มาแรงในยุคปัจจุบันนี้

ความสามารถอื่น
พูดได้ 4 ภาษา ภาษาไทย (ภาษาแม่) ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเกาหลี

อุดมพร พลศักดิ์


"น้องอร" อุดมพร พลศักดิ์ นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย เป็นนักกีฬาหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก โดยได้จากการแข่งขันโอลิมปิก ปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์, เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ในการแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่นไม่เกิน 53 กก. โดยยกในท่าสแนชได้ 97.5 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์กได้ 125 กก. รวม 222.5 กก. โดยเป็นการทำลายสถิติโอลิมปิก ในท่าคลีนแอนด์เจิร์กของประเภทนี้ด้วย

อุดมพร พลศักดิ์
อุดมพร เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2524 ที่จังหวัดนครราชสีมา
ในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2003 ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา อุดมพรทำได้สองเหรียญทอง โดยทำน้ำหนักได้ 100 กก. ในท่าสแนช และ 222.5 กก. ในน้ำหนักรวม

มนัส บุญจำนงค์


สิบเอก มนัส บุญจำนงค์ เป็นนักชกมวยสากลสมัครเล่นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก จากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่ประเทศกรีซ นับเป็นชาวไทยคนที่ 5 ที่ได้รับเหรียญทองโอลิมปิก และเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นคนที่ 3 ต่อจากสมรักษ์ คำสิงห์ และวิจารณ์ พลฤทธิ์

มนัสได้เหรียญทองจากกีฬาโอลิมปิก 1 เหรียญทอง เอเชียนเกมส์ 1 เหรียญทอง และซีเกมส์ 2 เหรียญทอง และหนึ่งเหรียญทองแดงจากการแข่งขัน มวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลกที่จัดขึ้นที่กรุงเทพในปี 2546[1]

ประวัติ
มนัส บุญจำนงค์ มีชื่อเล่นว่า “เติ้ล” เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2523 ที่จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรของนายมโนและนางมาลี บุญจำนงค์ มีน้องชายอีก 2 คนคือ มานนท์ (นนท์ บุญจำนงค์) และ พันธนินทร์ ทั้งสามพี่น้องหัดชกมวยมาตั้งแต่สมัยเด็ก

มีภรรยาคือนางพจนีย์ บุญจำนงค์ และมีบุตรด้วยกัน 3 คน ภายหลังจากได้เหรียญทองโอลิมปิกปี 2004 มนัสได้มีปัญหากับภรรยา และแยกทางกันเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 [2]

ธีรเทพ วิโนทัย

ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ธีรเทพ วิโนทัย
วันเกิด 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 (อายุ 24 ปี)
สถานที่เกิด กรุงเทพ
ส่วนสูง 170 ซม.
ชื่อเล่น ลีซอ
ตำแหน่ง กองหน้า, กองกลางตัวรุก

ประวัตินายธีรเทพ เป็นบุตรของ นายเทพไชย วิโนทัย ผู้สื่อข่าวกีฬา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ นางพรสมจิต วิโนทัย มีน้องชาย 1 คน คือ วัชรเทพ วิโนทัย จบการศึกษาชั้นอนุบาล ประถมศึกษา และ มัธยมศึกษาตอนต้น ที่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนเบรนต์วูด เมืองเอสเส็กซ์ ประเทศอังกฤษ (Brentwood School, Essex, England)
เริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรก ตั้งแต่อายุ 8 ปี ขณะเรียนอยู่ชั้น ป.3 และมี อาจารย์ทองแดง หรุ่นขำ เป็นผู้สอนฟุตบอลท่านแรก ลงแข่งขันฟุตบอลนักเรียนของกองทัพอากาศ เป็นรายการแรก และได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โดยต่อมา ได้นำทีมคว้าแชมป์ นอร์เวย์คัพ 3 สมัยซ้อน
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 ได้เซ็นสัญญากับทีมชุดเยาวชนสโมสรฟุตบอลคริสตัลพาเลซ ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 เซ็นสัญญากับทีมชุดเยาวชนสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เป็นนักฟุตบอลเยาวชน 1 ใน 3 คน ที่ได้ร่วมโครงการ "ช้างไทยไปเอฟเวอร์ตัน"
ธีรเทพ วิโนทัย ร่วมทีมบีอีซี เทโรศาสนใน ฤดูกาล 2549 โดยใช้เวลาลงสนามถึง15นัดกว่าจะยิงประตูแรกให้ต้นสังกัดได้(บีอีซี เทโร 5-0 สุพรรณบุรี 13 พ.ค. 2549)จากนั้นก็เป็นกำลังสำคัญของทีมเรื่อยมา และยิงในลีกได้5ประตูหลังจบฤดูกาล2550
นอกจากนี้ นายธีรเทพ ยังเป็นนายแบบโฆษณาโทรศัพท์มือถือ วัน-ทู-คอล!, เป๊ปซี่, ไนกี้ และ ยาสีฟันใกล้ชิด อีกด้วย
ในปี พ.ศ. 2551 ธีรเทพ วิโนทัย ได้เซ็นสัญญาร่วมทีมเค. ลีร์เซ จากดิวิชั่น 2 ของเบลเยียม เป็นเวลา 1 ปีครึ่ง โดยเป็นนักฟุตบอลชาวไทยคนที่2 ที่ได้เล่นในลีกเบลเยี่ยมต่อจากเอกชัย โพนทองถิ่น ที่เคยเล่นกับทีมลียง ซันจี ลุด ทีมระดับดิวิชั่น 3 ระหว่างปี พ.ศ. 2535-2537 และธีรเทพจะลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่ได้ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 หลังหมดสัญญากับบีอีซี เทโรศาสน


ที่มา http://www.siamsporttalk.com/index.php?topic=892.0

ภราดร ศรีชาพันธุ์


- ภราดร ศรีชาพันธุ์ (ชื่อเล่น บอล หรือเรียกกันว่า ซูเปอร์บอล, เกิด 14 มิถุนายน พ.ศ. 2522) นักเทนนิสชาวไทย และเป็นนักเทนนิสชายชาวเอเชียที่มีอันดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย อันดับ 9 ของโลกในปี พ.ศ. 2546
- ภราดรเริ่มเล่นในระดับอาชีพเมื่อปี พ.ศ. 2540 และในรายการเอทีพี ปี พ.ศ. 2541 โดยจบปีด้วยอันดับท้าย ๆ ของมือวางร้อยอันดับแรกของเอทีพีมาหลายปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2545 สามารถเป็นขึ้นมือวาง 30 อันดับแรก ภายหลังจากสามารถเอาชนะ อังเดร อากัสซี ในรายการวิมเบิลดัน และขึ้นเป็นอันดับ 9 ของโลกในปี 2546
ประวัติ
- ภราดร เกิดที่จังหวัดขอนแก่น เติบโตที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรชายคนสุดท้องในจำนวน 3 คน ของชนะชัย และอุบล ศรีชาพันธุ์ มีพี่ชายสองคน คือ ธนากร และนราธร จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนอรรถวิทย์พณิชยการ เขตบางนา กรุงเทพฯ ปัจจุบันมีส่วนสูง 185 ซม. น้ำหนัก 81 กก. ใช้รองเท้าและเสื้อผ้าของ อดิดาส และไม้เทนนิสของ โยเน็กซ์ เริ่มเล่นเทนนิสครั้งแรก ตั้งแต่อายุ 5-6 ปี
- นอกจากนี้ ภราดรได้ปรากฏตัวในโฆษณาหลายครั้ง ได้แก่ โฆษณาของ กระทรวงวัฒนธรรม เชฟโรเลต เทเลคอมเอเซีย ซัมซุง และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในปี 2547 มีข่าวออกมาว่าเป็นแฟนกับทาทายัง แต่ทางบ้านไม่เห็นด้วย ปีถัดมามีข่าวว่าควงกับ โอเด็ต แจ็คโคมิน นางแบบสาวที่มักเดินทางไปเชียร์ภราดรเมื่อมีโอกาส แต่ปัจจุบันเลิกเป็นแฟนกันแล้ว ล่าสุดคบหาดูใจอยู่กับ นาตาลี เกลโบวา และได้ประกาศการหมั้น วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2550 และได้แต่งงานเมื่อวันที่ 29 พฤจศิกายน 2550
ผลงาน
- ในปี 2547 ภราดรได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการถือธงชาติในกีฬาโอลิมปิก ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ ผลงานในทีมชาติไทยคือ เหรียญทอง ชายเดี่ยว ซีเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่อินโดนีเซีย, 3 เหรียญทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่บรูไน, เหรียญทอง ชายคู่ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13, ทีมชาติไทย ชุดแชมป์ เดวิส คัพ โซนเอเชีย
- เดือนมีนาคม 2549 ภราดรสามารถเอาชนะมือวางถึง 4 คน จนเข้าสู่รอบรองชนะเลิศการแข่งขันรายการแปซิฟิกไลฟ์โอเพน ทำให้อันดับโลกที่ตกลงไปที่ 61 ดีดกลับมาอยู่ที่ 38 สูงกว่าอันดับโลกเมื่อสิ้นปี 2548 เล็กน้อย อย่างไรก็ตามภราดรประสบปัญหาเจ็บข้อมือเรื้อรังจนขณะนี้ (19 มีนาคม 2550) อันดับโลกตกไปอยู่ที่ 83 กลายเป็นมืออันดับสองของไทยตามหลัง ดนัย อุดมโชค ซึ่งอยู่ที่อันดับ 79 และในปี 2550 ภราดรแทบไม่ได้ลงแข่งเทนนิสเลย จนกระทั่งปัจจุบันอันดับได้หล่นลงไปที่ 900 กว่าแล้ว เพราะไม่มีคะแนนสะสม อย่างไรก็ตามภราดรจะได้เสร็จลงแข่งในรายการระดับ ATP 9 รายการในปี 2551 เชื่อกันว่าภราดรสามารถจะลงแข่งได้อีกในประมาณ 2 เดือนข้างหน้า นั่นคือเดือน มีนาคม 2551

29 เมษายน 2552

น้ำมะเขือเทศ

ส่วนผสม
มะเขือเทศ 50 กรัม (1 ผลใหญ่ )
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว )
น้ำเปล่าต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว )
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5 ช้อนชา )


วิธีทำ
-นำมะเขือเทศล้างให้สะอาด หั่นให้ชิ้นพอประมาณ ใส่ในเครื่องปั่น พร้อมน้ำเชื่อม เกลือ น้ำสุก ปั่นให้ละเอียด ชิมรสตามชอบ


หมายเหตุ :
คุณค่าทางอาหาร : มีเบต้า-แคโรทีน สูงมาก ช่วยต่อต้านมะเร็งและมีวิตามินซี สูงมากเช่นกันป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
คุณค่าทางยา : ทำให้เกิดความสดชื่นแก้กระหายน้ำ ผิวพรรณผ่องใส ช่วยในการย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยฟอกเลือดและป้องกันโรคมะเร็ง


ที่มา http://www.yourhealthyguide.com/Menu/mj-tomato-juice.html

น้ำกระเจี๊ยบใบเตย

ส่วนผสม
กระเจี๊ยบแห้ง 1 กำมือ
ใบเตยตัดมาทั้งราก 1 ต้น
น้ำตาลทราย



วิธีทำ
-เอากระเจี๊ยบและใบเตยหั่นใส่หม้อ เอาน้ำใส่ ต้มให้เดือด
-จากนั้นเคี่ยวต่อไปนานประมาณ 10 นาที ตักเอาเนื้อออก เติมน้ำตาลทรายลงไปพอให้หวานน้อยๆ



หมายเหตุ :ถ้ากลัวอ้วนก็ไม่ต้องใส่น้ำตาลลงไป ดื่มเป็นชาแทนน้ำทั้งวัน ชาชนิดนี้จะมีสีสวยและมีกลิ่นหอมของใบเตย แต่ถ้าไม่เติมน้ำตาลก็ต้องทำใจหน่อย ตรงที่กระเจี๊ยบจะออกรสเปรี้ยวนิดๆ เสมอ


ที่มา http://www.yourhealthyguide.com/Menu/mj-roselle-pine-juice.htm

น้ำสับปะรดรวมมิตร

ส่วนผสม
สับปะรด 200 กรัม
ส้มเขียวหวาน 4 ผล
กีวีฟรุต 2 ผล
องุ่นเขียว 10 ผล
สะระแหน่ 10 ใบ
มะนาว
น้ำแข็ง


วิธีทำ
-เอาสับปะรดกับกีวีฟรุตคั้นในเครื่องคั้นน้ำผลไม้แยกกาก คั้นน้ำส้มต่างหาก แล้วนำมารวมกันบีบมะนาวลงไป
-เอาองุ่นเขียวลวกน้ำร้อนแล้วปอกเปลือกออก ใส่ลงไปในน้ำเวลาเสิร์ฟใส่ใบสะระแหน่ลงไป อยากจะเติมน้ำแข็งก็ได้

หมายเหตุ :ในยามอากาศร้อนได้ดื่มน้ำที่มีรสเปรี้ยวนิด ๆ และมีวิตามินซีสูงจะทำให้รู้สึกชุ่มชื่นขึ้น เติมน้ำแข็งลงไปให้เย็นๆ จะยิ่งดับร้อนได้ดี อากาศร้อนทำให้เมตาโบลิสึมในร่างกายสูงขึ้น จึงมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้นมากในระยะนี้ อาศัยเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มาช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นทิ้งจะให้ให้รู้สึกสบายขึ้น


ที่มา http://www.yourhealthyguide.com/Menu/mj-pineapple-mix-juice.htm

สูตรหมักผมให้สวย

สูตรหมักผมสวยแบบต่างๆ
สูตรที่ 1 ใช้โยเกริต์ผสมกะน้ำมันมะกอกหมักผมทิ้งไว้ครึ่งชม.ก่อนสระ หรือถ้าว่างๆ ก็หมักไว้นานกว่านั้นผมสวยปิ้งจริงๆ
สูตรที่ 2 หัวกะทิคั้นสดๆ (ซื้อที่ตลาด) ผสมกับน้ำมะกรูด หมักไว้ รับรอง ผมจะ เงา ดำ มัน นุ่ม แบบไม่ต้องเสียตัง ธรรมชาติมักมัก
สูตรที่ 3 มายองเนสค่ะ นุ่มดี น้ำมันมะพร้าวก็ใช้ได้นะคะ
สูตรที่ 4 โยเกิร์ต + น้ำมันมะกอก + ไข่แดง + น้ำผึ้ง
สูตรที่ 5 น้ำมันงา หรือ เบบี้ออย หรือ น้ำมันมะกอก ลองนำไปใช้ดูนะคะ เป็นสูตรทำเองได้ไม่ต้องไปซื้อของที่ผสมสารเคมีราคาแพงๆ


ที่มา http://www.fwdder.com/topic/89596

บำรุงผมให้สวยด้วยเบียร์

เบียร์เครื่องดื่มที่คุณผู้ชายชอบทานกันมากๆ สามารถช่วยให้ผมที่ลีบแบนดูพองตัวหนา และมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นด้วย
วิธีทำ
1.สระผมด้วยแชมพูธรรมดา
2.ล้างน้ำออกให้หมด
3.เทเบียร์ลงบนเส้นผมพอหมาดๆ ขยี้ให้ทั่วศรีษะ ทิ้งไว้ 5-10 นาที
4.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
5.ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ
เห็นไหมคะ เป็นวิธีที่ไม่ยากเลย นอกจากเบียร์จะทำให้ผมเราหนา นุ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยขจัดสารตกค้าง จากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมได้อีกด้วย


ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=iamlady&month=01-2009&date=12&group=19&gblog=83

4 เคล็ดลับง่ายๆในการดูแลผมสวยทุกวัน


เคล็ดลับการดูแลผมที่ 1: อย่าสระผมทุกวัน
การสระผมทุกวันจะทำให้น้ำมันที่จำเป็นในการปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะของ คุณหมดไป ขอแนะนำให้คุณสระผมไม่เกินสัปดาห์ละ 3 ครั้ง แต่หากคุณเป็นคนมีผมและหนังศีรษะที่มัน หรือกลัวว่าผมจะลีบ ให้ใช้แป้งเด็กหรือผงฟูทำความสะอาดแทน โดยโรยพอประมาณให้ทั่วหนังศีรษะ แล้วลูบให่ทั่วศีรษะตลอดถึงเส้นผม แล้วเช็ดออกด้วยผมขนหนูชุปน้ำอุ่น แป้งหรือผงฟูจะไปดูดไขมันส่วนเกินบนผมและหนังศีรษะของคุณ
เคล็ดลับการดูแลผมที่ 2: ครอบผมขณะล้่างหน้า
ดาลิดา แดเฟอร์ แฮร์สไตลิสต์ จากมาร์คต แอนโทนี่ ซาลอน แนะนำให้คุณใส่หมวกอาบน้ำ หรือตาขายคลุมผมขณะล้างหน้าหรือบำรุงหน้า เพราะน้ำ สบู่ หรือครีมบำรุงต่างๆ จะทำให้ผมของคุณมันและลีบ
เคล็ดลับการดูแลผมที่ 3: หางม้าก็ดูดีนะ
อยากแนะนำให้คุณรวบผม หรือรัดผมหางม้า เพื่อป้องกันน้ำมันและเครื่องสำอางจากผิวหน้าของคุณทำให้ผมคุณลีบ การรัดผมหางม้าให้สวยควรเริ่มมัดที่ต้นคอ แล้วใช้กิ๊บดำหนีบไขว้กัน 2 ตัวไว้ใต้หางม้า เพื่อให้ผมอยู่ทรง
เคล็ดลับการดูแลผมที่ 4: อย่าจับผมบ่อย
หลีกเลี่ยงการสัมผัสผมของคุณ แล้วพยายามใช้กระดาษซับมันซับหน้าเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงความมันจากนิ้วและหน้าของคุณทำให้ผมลีบ

เศรษฐศาสตร์มหภาค

เศรษฐศาสตร์มหภาค (macroeconomics) เป็นการศึกษาภาวะเศรษฐกิจโดยส่วนรวม ทั้งระบบเศรษฐกิจหรือทั้งประเทศ อันได้แก่ การผลิตของระบบเศรษฐกิจ การบริโภค การออม และการลงทุนรวมของประชาชน การจ้างงาน ภาวะการเงินและการคลังของประเทศ ฯลฯ เศรษฐศาสตร์มหภาคโดยทั่วไปจะครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น รายได้ประชาชาติ วัฏจักรเศรษฐกิจ เงินเฟ้อและระดับราคา การคลังและหนี้สาธารณะ เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ การเงินและสถาบันการเงิน และเศรษฐศาสตร์การพัฒนา ฯลฯ


ที่มา http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=662d1cf3de5750d3

เศรษฐศาสตร์จุลภาค

เศรษฐศาสตร์จุลภาค (microeconomics) เป็นการศึกษาพฤติกรรมทางเศรษฐกิจของหน่วยเศรษฐกิจใดหน่วยเศรษฐกิจหนึ่ง เช่น การศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภครายใดรายหนึ่งว่าจะมีการตัดสินใจในการเลือกบริโภคสินค้าและบริการอย่างไร จำนวนเท่าใด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความพอใจสูงสุดภายใต้ขีดจำกัดของรายได้จำนวนหนึ่ง พฤติกรรมของผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งว่าจะตัดสินใจเลือกผลิตสินค้าอะไร จำนวนเท่าใด ด้วย วิธีการอย่างไร และจะกำหนดราคาเท่าไร จึงจะได้กำไรสูงสุด ศึกษาพฤติกรรมการลงทุน การออมของ บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ศึกษากลไกตลาดและการใช้ระบบราคาเพื่อการจัดสรรสินค้า บริการ และทรัพยากร อื่นๆ จะเห็นได้ว่าเศรษฐศาสตร์จุลภาคส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาเรื่องที่เกี่ยวกับราคาในตลาดแบบต่างๆ นักเศรษฐศาสตร์บางท่านจึงเรียกวิชาเศรษฐศาสตร์อีกชื่อหนึ่งว่า ทฤษฎีราคา (Price Theory)


ที่มา http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=2ae1ea5b09e416e4

เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น

1. ความหมายและที่มาของวิชาเศรษฐศาสตร์
1.1. ความหมายของเศรษฐศาสตร์
- เศรษฐศาสตร์หมายถึงวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรที่มี อยู่อย่างจำกัด เพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ ของมนุษย์ที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด
1.2. ที่มาของเศรษฐศาสตร์
1. บิดาแห่งวิชาเศรษฐศาสตร์ คือ อาดัม สมิธ (Adam Smith) ชาวสก๊อตแลนด์ ผู้เขียนหนังสือ "The Wealth of Nations" และเสนอนโยบายเสรีนิยม(Laissezfaire)รัฐบาลควรเข้ามาแทรกแซง ระบบเศรษฐศาสตร์ให้น้อยที่สุด
2. บิดาแห่งวิชาเศรษฐศาสตร์มหาภาค คือ จอห์น เมนาร์ด เคนส์ (John maynard Keynes) ผู้เขียนหนังสือ "The General Theory of Employment, Interest and Money" และเสนอแนวคิดที่ว่า รัฐบาลควรเข้ามาแทรกแซง ระบบเศรษฐศาสตร์มากขึ้น
2. แขนงวิชาเศรษฐศาสตร์
2.1. เศรษฐศาสตร์จุลภาค (Microeconomics)
- เป็นแขนงวิชาที่ศึกษาเศรษฐศาสตร์ในระดับหน่วยย่อย
- ตัวอย่างการศึกษา พฤติกรรมของตลาด, กลไกราคา, ทฤษฎีราคา
2.2. เศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomics)
- เป็นแขนงวิชาที่ศึกษาเศรษฐศาสตร์ในระดับส่วนรวมหรือระดับประเทศ
- ตัวอย่างการศึกษา ทฤษฎีรายได้ประชาชาติ, ภาวะการจ้างงานของประเทศ ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์จุลภาคและมหภาคอาจแตกต่างกัน เนื่องจากมุ่งไปที่การศึกษาผลกระทบที่ มีต่อปัจเจกบุคคลและต่อส่วนรวม จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกัน
3. แนวทางการศึกษาเศรษฐศาสตร์
3.1. เศรษฐศาสตร์ตามที่เป็นจริงและเศรษฐศาสตร์ที่ควรเป็น
1. เศรษฐศาสตร์ตามที่เป็นจริง (Positive Economics) เป็นการศึกษาแง่ข้อเท็จจริงทางเศรษฐศาสตร์
2. เศรษฐศาสตร์ที่ควรจะเป็น (Normative Economics) เป็นการศึกษาแง่ความคิดเห็นเกี่ยวกับ เศรษฐศาสตร์
3.2. การศึกษาเศรษฐศาสตร์ในปัจจุบันใช้วิชาคณิตศาสตร์และสถิติศาสตร์ เข้ามาช่วยอธิบาย
4. ปัญหาพื้นทางเศรษฐศาสตร์
4.1. การที่ทรัพยากรมีจำกัดเมื่อเทียบกับความต้องการของมนุษย์ที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด ทำให้เกิดปัญหาพื้นฐาน เศรษฐศาสตร์ที่สำคัญคือ "ปัญหาการขาดแคลน" ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการจัดระบบผลิต (ปัญหาการจัดสรรทรัพยากร)
4.2. สาระสำคัญของปัญหาการจัดสรรทรัพยากร คือจะผลิตอะไร อย่างไร และเพื่อใคร (What, how, for whom)
1. จะผลิตอะไร : ควรผลิตสินค้า-บริการอะไร ในปริมาณเท่าใด
2. จะผลิตอย่างไร : โดยใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
3. จะผลิตเพื่อใคร : จะกระจายสินค้าบริการไปให้ใคร
4.3. นอกจากนี้ ปัญหาสำคัญเกี่ยวเนื่องกับปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ คือ ปัญหาประชากร
1. ปัญหาประชากรที่สำคัญ คือ ความไม่สมดุลระหว่างจำนวนประชากรและทรัพยากร
2. บิดาวิชาประชากรศาสตร์ คือ โทมัส โรเบิร์ต มัลธัส (Thomas Robert Malthas) ได้สรุปว่า
- ประชากรมีการเพิ่มเป็นอัตราก้าวหน้าเรขาคณิต (1,2,4,8,16,32,....)
- อาหารที่มนุษย์ผลิตได้เพิ่มเป็นอัตราเลขคณิต (1,2,3,4,5,6,......)
- เมื่อประชากรเพิ่มมากกว่าอาหารที่ผลิตได้ มนุษย์จะเกิดการอดอาหาร
- มนุษย์จะไม่อดอยากถ้าหาทางคุมกำเนิด หรือ มีตัวยับยั้งธรรมชาติทีบั่นทอนชีวิตมนุษย์ เช่น โรคระบาด ภัยสงคราม
3. คำทำนายของมัลธัสปัจจุบันไม่เป็นจริง เนื่องจากมนุษย์มีความสามารถในการผลิตอาหารได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผ่านการปฎิวัติเขียว (Green Revolution) คือ ความก้าวหน้าในการปรับปรุง การผลิตให้ได้ผลผลิตเกษตรต่อไร่มากขึ้น เช่น โดยการปรับปรุงพันธุ์พืช ใช้ปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง


ที่มา http://www.geocities.com/entsatan/page10.html

วิธีลดน้ำหนักหลังคลอด

ส่วนแรกคือหน้าท้อง
ขั้นแรก นอนราบกับพื้น ยกขาชันเข่าขึ้น มือวางไว้ที่ท้ายทอย จากนั้นพยายามยกศรีษะขึ้นจากพื้นช้าๆ และลงราบกับพื้นให้ท้องแบนราบเลยนะคะ แล้วค่อยยกขึ้นใหม่ ทำอย่างนี้ 10 ครั้งค่ะ ถ้าร่างกายคุณแข็งแรงพอแล้วค่อยเพิ่มค่ะ และเมื่อคุณเริ่มแข็งแรงพอแล้ว ให้ทำในท่าเดิมแต่ยกเป็น 2 จังหวะ คือเมื่อยกแล้วให้หยุดแล้วยกต่อจังหวะที่สองจากนั้นก็วางศรีษะลง ทำ 10 ครั้งเมื่อแข็งแรงก็เพิ่มได้ค่ะ
และท่าสุดท้ายสำหรับการบริหารหน้าท้อง อาจจะยากสักหน่อยนะคะ เพราะต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องจริงๆ ให้นอนราบกับพื้น ยกขาขึ้นชันเข่า มือประสานไว้ที่ท้ายทอย ยกตัวขึ้นนับ 1 บิดไปทางขวานับ 2 บิดไปทางซ้ายนับ 3 หยุด แต่อย่าเพิ่งเอาหัวลงนะคะ ยกขึ้นมาอีกครั้งนับ 4 แล้วจึงวางหัวราบลงกับพื้น ท่านี้ไม่ขอจำกัดค่ะ ให้คุณทำเท่าที่คุณทำได้ ** การบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง สำคัญคุณต้องเกรงหน้าท้อง และยกหัวขึ้นด้วยลำตัว อย่ายกมันด้วยมือที่อยู่ตรงท้ายทอย เพราะมันจะทำให้การออกกำลังกายของคุณไม่ได้ผลค่ะ **
ท่าบริหารต้นขา
ยืนตรง แยกขาออกพอย่อตัวลงได้ จากนั้นย่อตัวลงแตะพื้น อะ..อะ ไม่ใช่การก้มตัวไปเหมือนท่านักวิ่งนะคะ ให้ย่อตัวลง หลังตรงค่ะ ท่านี้ทำแล้วจะปวดขา แต่มันได้ผลนะคะ ทำ 10 ครั้งค่ะ
ถ้าทำได้อย่างนี้แล้ว รับรองค่ะ 3 เดือนหลังคลอดเห็นผลแน่นอน..

ที่มา http://www.shopbegin.com/weight-after-giving-birth.html

วิธีลดน้ำหนักง่าย ๆ

1.ทานอาหารในแต่ละมื้อ แคลอรีไม่เกิน300-350แคลอรี (ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู หมดสิทธิ์นะ)
2.ทานผักผลไม้ (ที่มีแป้งหรือน้ำตาลน้อย) ในวันนึงให้พอประมาณ
3.อย่ากินของจุกจิก ของมัน ของทอด ของหวาน
4.ดื่มน้ำเยอะๆ .. วันนึงประมาณ10-12 แก้วจะดี..
5.ออกกำลังกาย วันละ1-2 ชม. อย่างน้อยๆ ก็ 3-4วันต่อสัปดาห์
ลองทำดูนะ ใน 1 เดือนเนี่ย น้ำหนักละก็ส่วนเกินจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดจิงๆ
เอาใจช่วยสำหรับทุกๆคนนะ สู้ๆ ....อิอิ

ที่มา http://dek-d.com/board/view.php?id=675464

วิธีบำรุงผิวด้วยสูตรมะเขือเทศกับนม

วิธีบำรุงผิวด้วยสูตรมะเขือเทศกับนม
ขึ้นชื่อว่า “มะเขือเทศ” ไม่เพียงแต่อร่อยแต่ยังเป็นแหล่งสำคัญของวิตามินเอและบี รวมทั้งแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย แถมยังทำให้ผิวสวยอีกด้วย วันนี้เกร็ดความรู้มีเคล็ดลับเกี่ยวกับมะเขือเทศมาฝาก....

กรดในมะเขือเทศ สามารถนำมาทำโลชั่นทำความสะอาดผิวได้ เพราะมีฤทธิ์ช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยเฉพาะเมื่อนำมาผสมกับนมจะมีกรดแล็กติกช่วยในการขัดลอกเซลล์ผิว

วิธีทำ
นำมะเขือเทศสุกมาบดให้ละเอียด แล้วเทลงในผ้าขาวบาง และบีบน้ำออก แล้วนำน้ำมะเขือเทศผสมกับนมเท่า ๆ กัน แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าวันละ 1 หรือ 2 ครั้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำแร่ หรือน้ำสะอาดก็ได้ วิธีนี้เหมาะสำหรับผิวมัน และผิวผสมถ้าอยากมีผิวสวย ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติกันดูได้.

ที่มา
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plewtaamlom&month=08-2008&date=03&group=27&gblog=44

วิธีบำรุงผิวด้วยผลไม้ 4 สูตร

วิธีบำรุงผิวด้วยผลไม้ 4 สูตร
1 โลชั่นผลไม้ใช้มะละกอสุกบดละเอียดประมาณ 2 ช้อนชา พอกหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ 10-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเป็นประจำวันละครั้ง ผิวหน้าจะเนียนขึ้น และช่วยลดริ้วร้อยได้ด้วย
2 โลชั่นน้ำผลไม้ใช้น้ำแตงกวา มะเขือเทศ มะนาว และแตงโม อย่างละ 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน ใช้สำลีแต้มส่วนผสมเช็ดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า น้ำผลไม้ผสมสูตรนี้จะช่วย สมานผิวและกระชับรูขุมขนเหมือนกับการใช้โทนเนอร์
3 มอยส์เจอไรเซอร์น้ำผึ้งใช้น้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนชา อุ่นด้วย ไฟอ่อน ๆ ประมาณ ครึ่งนาที จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นแล้วทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีจึงเช็ดออกด้วยสำลีแล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น จะรู้สึกว่าผิวหน้านุ่มเนียนขึ้น วิธีนี้ช่วยกำจัดสิวหัวดำและจุลินทรีย์ที่หมักหมมอยู่ตามขุมชนได้หมดจด ช่วยให้เลือดลม เดินดีขึ้นด้วย
4 โลชั่นน้ำนมผสมเปลือกกล้วยหอมใช้เปลือกกล้วยหอมสุก 1 ผล ล้างให้สะอาดแล้ว หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เติมน้ำนมสดลงไปประมาณครึ่งถ้วย บดให้ละเอียดเข้ากัน ใช้แทน โลชั่นสำหรับผิวแห้งหรือเกรียมแดด ทั้งยังช่วยขจัดฝุ่นละออง ที่คั่งค้างอยู่ตามผิวหน้า ด้วย โลชั่นน้ำนมเปลือกกล้วยนี้สามารถใส่ขวดเข้าตู้เย็นเก็บไว้ใช้ได้


ที่มา
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plewtaamlom&month=08-2008&date=06&group=27&gblog=46

สาวตาชิด


สาวตาชิด
ดูง่ายๆว่าดวงตาของคุณ
ทั้งสองข้างอยู่ค่อนข้างใกล้ชิดกันหรือเปล่า
ใกล้จมูกเข้าไปหน่อยจึงทำให้หน้าคุณดูเล็กลง

~แต่งอย่างไรให้สวย~
*ใช้อายแชโดว์แบบมีวิ้งๆหรือแบบด้านก็ได้
*คนผิวขาวควรใช้สีขาวหรือสีเงิน คนผิวคล้ำใช้สีประกายทองจะสวยมาก
*แต้มอายแชโดว์สีสว่างแต้มเป็นจุดกลมๆที่หัวตาแล้วค่อยๆเกลี่ยไปหางตา

~ห้ามแต่งเด็ดขาด~
*วาดขอบตาบนตั้งแต่หัวตาถึงหางตา ให้เขียนขอบตาที่กึ่งกลางเปลือกตาบนไปยังหางตา
ระวังอย่าให้อายไลเนอร์เลอะไปโดนครึ่งเปลือกตาด้านใน
*การปัดมาสคาร่า ควรปัดเฉพาะขนตาช่วงหางตาทั้งล่างและบนเพื่อย้ำระยะของหางตา


สาวตาอัลมอนด์



สาวตาอัลมอนด์
ดวงตาแบบนี้แต่งตาได้สวยเริ่ดสุดๆเลยจ๊ะ
ดวงตาจะต้องใหญ่ ยาว และหางตาเรียวเล็ก
แต่งตาอีกหน่อยก็กลายเป็น
สาวตาสวยเซ๊กซี่ภายในพริบตา

~แต่งอย่างไรให้สวย~
*ปัดมาสคาร่าเพียงรอบเดียวก็สวยเด้งได้แล้ว
*ทาอายแชโดว์แบบมีชิมเมอร์บริเวณโหนกคิ้ว ทาให้กลืนกับผิวไปเลย
*เขียนอายไลเนอร์ควรเขียน เว้นช่วงหัวตาไว้สักนิดนึงทั้งบนและล่าง

~ห้ามแต่งเด็ดขาด~
*อย่าทาอายแชโดว์สีเข้มและเขียนตาสีเข้มอีก เพราะเดี๋ยวตาคุณจะดุเกินไป
*อย่าเขียนขอบตาทั้งตาเพราะจะทำให้ตาดูเล็กลง

ที่มา http://blog.eduzones.com/entertain/9074


สาวตาเล็ก



สาวตาเล็ก
ถ้าคุณลงอายไลเนอร์แล้วแทบมองไม่เห็นดวงตาของตัวเอง แสดวงว่าคุณตาเล็ก
ดวงตาแบบนี้เวลายิ้มจะสวยน่ารักเป็นประกายเชียวล่ะ
สังเกตง่ายๆเวลาที่คุณยิ้มหรือหัวเราะแล้ว
ตาของคุณแทบจะหายไปเหลือนิดเดียว

~แต่งอย่างไรให้สวย~
*ใช้อายแชโดว์ที่มีสีอ่อนๆ มีวิ้งๆด้วยจะดีมาก
*สาวผิวขาวควรใช้อายแชโดว์สีครีม ส่วนสาวผิวคล้ำสีบรอนซ์สวยที่สุดจ๊ะ
*มีอายไลเนอร์สีขาวเขียนขอบตาช่วงหัวตา จะช่วยทำให้ตาโตขึ้น

~ห้ามแต่งเด็ดขาด~
*ไม่แนะนำอายแชโวสีเข้มเพราะจะทำให้ตาดูเล็กลง
*เลี่ยงการเขียนขอบตาทั้งล่างและบน

ที่มา http://blog.eduzones.com/entertain/9074

สาวตาชั้นเดียว



สาวตาชั้นเดียว
สาวๆที่ไม่มีชั้นตาก็แสดงว่า
คุณเป็นสาวตาชั้นเดียว
แต่สาวๆเอเชียส่วนมากจะตาชั้นเดียวกันนะเนี่ย

~แต่งอย่างไรให้สวย~
* ควรเขียนอายไลนืเนอร์อยู่เหนือขนตา แต่ไม่แนะนะสีเข้มๆทั้งหลาย
*ทำให้ดวงตาโดดเด่นด้วยการทาอายแชโดว์แบบวิ้งๆบริเวณโหนกคิ้ว
* คนผิวขาวจะเหมาะกับอายแชโดว์แบบมีชิมเมอร์
ส่วนสาวผิวคล้ำแนะนำว่าควรเป็นสีบรอนซ์ สีทองจะดูสว่างกว่า

~ห้ามแต่งเด็ดขาด~
*ไม่ต้องทาอายแชโดว์สีเข้มที่เปลือกตาเพราะทาไปก็ไม่มีใครมองเห็น
*ไม่ต้องปัดมาสคาร่าก้ได้ เพราะยิ่งเน้นรูปตาของคุณเข้าไปอีก

ที่มา http://blog.eduzones.com/entertain/9074

สาวตากลมโต

สาวตากลมโต
สาวไทยส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในกลุ่มของสาวตาโต
สาวๆเหล่านี้โชคดีที่มีดวงตาที่โดดเด่น
กว่าส่วนอื่นบนใบหน้า
จึงไม่จำเป็นต้องแต่งดวงตามากมาย
แต่งแบบง่ายๆ

~แต่งอย่างไรให้สวย~
* ใช้อายแชร์โดว์แบบไม่มีชิมเมอร์หรือวิ้งค์ๆ
* เขียนขอบตาโดยรอบด้วยดินสอสีเข้มๆ
*แต่งตาโตให้เล็กลงด้วยการเขียนเส้นขอบตาด้านในเหนือขนตา

~ห้ามแต่งเด็ดขาด~
*อย่าทาอายแชร์โดว์หลากหลายฉดสี
*อย่าปัดมาสคาร่าทั้งบนและล่าง แค่ปัดข้างบนก็เพียงพอแล้วจ๊ะ

ที่มา http://blog.eduzones.com/entertain/9074


เกาะพีพีดอน


















เกาะพีพีดอน
ที่ตั้ง : ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง ห่างจากท่าเรือเจ้าฟ้าประมาณ 42 กิโลเมตร
การเดินทาง : จากกระบี่ มีเรืออกจากท่าเรือเจ้าฟ้า ในตัวเมือง มีเรือให้บริการตลอดปี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง และห่างจากท่าเรืออ่าวนาง มีเรือให้บริการวันละ 1 เที่ยว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จุดเด่น : หมู่เกาะพีพีอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยสองเกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล และเกาะเล็กๆ ข้างเคียง คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะปิเต๊ะ ฯลฯ เกาะเล็กๆ นี้มีโลกใต้ทะเลที่ได้รับการยอมรับว่าสวยงามมาก และเกาะพีพีดอนเองก็มีทิวทัศน์ที่ครั้งหนึ่งเคยติดอันดับงดงามที่สุด 1 ใน 10 ของโลกเลยทีเดียว
• เกาะพีพีดอนเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะพีพี มีทั้งที่พัก ท่าเรือ ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่งดงามอีกด้วย คั่นด้วยที่ราบเล็กๆ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว
• หากมาเที่ยวที่เกาะนี้สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย ตั้งแต่เดินเล่นชมวิวหรือเหมาเรือชมวิว เล่นน้ำบริเวณชายหาด ดำน้ำตื้นที่อ่าวต้นไทร อ่าวนุ้ย อ่าวหยงกาเส็ม อ่าวผักหนาม อ่าวลันดี โดยสามารถเช่าอุปกรณ์ดำน้ำได้จากร้านค้าทั่วไป หรืออาจเช่าเรือหางยาวไปดำน้ำลึกก็ได้ โดยติดต่อร้านบริการนำเที่ยวซึ่งจะมีอุปกรณ์ดำน้ำครบครัน เหมาะทั้งสำหรับมือสมัครเล่นและมืออาชีพ
• นอกจากเกาะพีพีดอนแล้ว หมู่เกาะพีพียังมีเกาะสวยๆอีกหลายเกาะ เช่นเกาะไผ่ ซึ่งอยู่ทางด้านเหนือของเกาะพีพีดอน ห่างจากหัวเกาะพีพีดอนไป 3 กิโลเมตร เหมาเรือหางยาวไปเที่ยวได้สะดวก เกาะไผ่ เป็นจุดดำน้ำตื้นที่เป็นที่นิยมมากมีหาดทรายที่ขาวสะอาดและอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ ไกลออกไปเป็นที่ตั้งของเกาะยูง เกาะปิเต๊ะ เป็นจุดดำน้ำลึกที่สวยงามมาก
สิ่งอำนวยความสะดวก : เกาะพีพีดอนมีที่พักมากมายให้เลือกใช้บริการโดยเฉพาะอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม สำหรับร้านอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่อาหารไทย อาหารยุโรป และอาหารทะละให้ลองลิ้มชิมรส เช่นเดียวกับบาร์เบียร์ริมหาดที่ครึกครื้นทุกค่ำคืน

ที่มา
http://www.oceansmile.com/S/Krabri/KohPP.htm
ดาวน์โหลดข้อมูลในรูปแบบ Microsoft Word ได้ที่

ขจัดรอยเปื้อนบนโทรศัพท์สีขาว



ขจัดรอยเปื้อนบนโทรศัพท์สีขาว
วิธีทำความสะอาดรอยเปื้อนบนโทรศัพท์ที่มีสีขาว
มีวิธีง่ายๆ คือ ใช้ผ้าชุบน้ำยาล้างเล็บเช็ดถูให้ทั่ว
คราบฝุ่นและรอยเปื้อนต่างๆ ก็จะหายไป



ที่มา http://secreta.doae.go.th/html/page63.htm

กำจัดคราบเทียนไขออกจากเชิงเทียน


กำจัดคราบเทียนไขออกจากเชิงเทียน
วิธีทำความสะอาดคราบเทียนไขที่ติดแน่นออกจาก
เชิงเทียน มีวิธีทำง่ายๆ คือ ใส่เชิงเทียนในช่องแช่แข็ง
ทิ้งไว้สักครู่ จะสามารถเอาคราบเทียนออกได้ง่ายและ
หมดจดทีเดียว

กำจัดแมลงสาบ

กำจัดแมงสาบ
แมลงสาบมักชอบอยู่ในมุมอับ ผลิตลูกหลานออกมาอย่างมากมาย
วิธีกำจัดง่ายๆ ก็คือ เอาน้ำตาลเคี่ยวกับน้ำให้มีกลิ่นหอมแล้วนำ
ไปใส่ในกะละมัง หรือ ภาชนะที่มีความลื่น เพราะเมื่อแมลงสาบ
ได้กลิ่น มันจะลงไปกินแต่ไม่สามารถไต่ขึ้นมาได้ วิธีนี้ก็จะช่วย
ลดพลเมืองแมลงสาบได้มาก และถ้ากันแมลงสาบเข้าไปในตู้เสื้อผ้า
หรือ ตู้หนังสือ ให้ใช้ก้านพลูและพริกไทยเม็ดบรรจุใส่ถุงผ้าเล็กๆ
แล้วนำไปไว้ตามซอกของตู้เสื้อผ้า หรือ ตู้หนังสือ

ที่มา http://secreta.doae.go.th/html/page63.htm



ทำความสะอาดคนโทแก้ว


ทำความสะอาดคนโทแก้ว
วิธีทำความสะอาดคนโทแก้วที่เอามือล้วงลงไป
ทำความสะอาดยาก ให้ทุบเปลือกไข่ใส่ลงไป
แล้วกรอกน้ำส้มสายชูตามลงไปเล็กน้อย
จากนั้นเขย่าแล้วแช่ทิ้งไว้สักครู่ เทเปลือกไข่ออก
ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกที คนโทแก้วจะดูสะอาด
หมดจดและยังปราศจากกลิ่นอีกด้วย

แก้รอยไหม้บนเตารีด


แก้รอยไหม้บนเตารีด
ถ้าเกิดรอยไหม้ที่เตารีดเวลารีดผ้าจะฝืดมือ ไม่คล่อง
หรือลื่นเหมือนเก่า ให้ใช้ยาสีฟันขัดถูที่รอยไหม้
หลายๆ ครั้ง รอยไหม้ที่ติดอยู่ก็จะหายไป

ทำความสะอาดผ้าม่าน



ทำความสะอาดผ้าม่าน
วิธีทำความสะอาดผ้าม่าน ทำได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้าย
ที่ติดมากับผ้าม่าน แล้วจุ่มลงไปในอ่างน้ำอุ่นที่ผสมกับเกลือ
1 ถ้วย แล้วแขวนผ้าม่านให้แห้ง โดยแผ่ให้หมดเนื้อผ้า
จะทำให้ผ้าม่านสะอาดและไม่ยับอีกด้วย


ที่มา http://secreta.doae.go.th/html/page63.htm

แก้หน้าปัดนาฬิกาเป็นรอย



แก้หน้าปัดนาฬิกาเป็นรอย

หน้าปัดนาฬิกาที่เป็นรอยขนแมว ใช้ใบขนุนที่แก่จัดขัดเพื่อให้รอยหาย แต่จะเกิดรอยที่เล็กกว่าขึ้นเต็มหน้าปัด ใช้ยาสีฟันบีบใส่ผ้านุ่มๆ ขัดถูอีกครั้ง หน้าปัดจะใสเหมือนใหม่ แต่ต้องระวังอย่าให้ถูกขอบเรือนนาฬิกา

ที่มา http://secreta.doae.go.th/html/page63.htm